เมื่อพูดถึงยุคแรกของ New Orleans Pelicans สิ่งที่แฟนบาสเกตบอลทั่วโลกนึกถึงทันทีคือ Anthony Davis หรือที่ถูกเรียกกันติดปากว่า “The Brow” เขาไม่เพียงเป็นซูเปอร์สตาร์คนแรกที่แฟรนไชส์สร้างขึ้นมาเอง แต่ยังกลายเป็นเสาหลักของทีมในช่วงเวลาสำคัญที่ Pelicans ต้องการความมั่นคงและความหวัง บทความนี้จะพาย้อนกลับไปสำรวจเส้นทาง Anthony Davis Era ตั้งแต่การดราฟต์เข้ามาในลีก การก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับ All-Star ผลงานในเพลย์ออฟ ไปจนถึงการจากลาที่เต็มไปด้วยดราม่า พร้อมวิเคราะห์ว่ามรดกที่เขาทิ้งไว้ส่งผลต่อ Pelicans อย่างไรบ้าง และสำหรับแฟนกีฬาที่อยากสนุกไปกับการลุ้นผลทุกแมตช์ ช่องทางเดิมพันที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถืออย่างคาสิโนออนไลน์ ufabet ครบวงจรก็กลายเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนความตื่นเต้นเช่นกัน

จุดเริ่มต้น: ดราฟต์ปี 2012 และการมาของ “The Brow”
ปี 2012 คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแฟรนไชส์ New Orleans ที่เพิ่งรีแบรนด์จาก Hornets สู่ Pelicans ในเวลาต่อมา ทีมได้รับสิทธิ์เลือกดราฟต์อันดับ 1 และเลือก Anthony Davis จากมหาวิทยาลัย Kentucky ผู้เล่นที่เพิ่งพาทีม Wildcats คว้าแชมป์ NCAA
Davis ถูกยกย่องว่าเป็น “พรสวรรค์หายาก” ด้วยความสูง 6 ฟุต 10 นิ้ว แขนยาว บวกกับความสามารถทั้งเกมรุกและรับ เขามีทักษะการบล็อกชั้นยอด การรีบาวด์แน่นอน และยังพัฒนาเกมยิงไกลได้เรื่อย ๆ นี่คือผู้เล่นที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็น “เสาหลักแห่งอนาคต” ของทีม
การก้าวขึ้นเป็น All-Star และความหวังของแฟรนไชส์
ตั้งแต่ฤดูกาลแรก Davis ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นซูเปอร์สตาร์ เขามีค่าเฉลี่ย 13.5 แต้ม 8.2 รีบาวด์ และ 1.8 บล็อกต่อเกม แม้ทีมจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่แฟน ๆ ก็เห็นแสงสว่างของอนาคต
เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลที่สองและสาม Davis พัฒนาอย่างก้าวกระโดด กลายเป็น All-Star แบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะฤดูกาล 2014–15 ที่เขาทำได้ถึง 24.4 แต้ม 10.2 รีบาวด์ และ 2.9 บล็อกต่อเกม คว้าสถิติการป้องกันยอดเยี่ยมและพา Pelicans เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ แม้จะพ่าย Golden State Warriors ที่กำลังจะกลายเป็นแชมป์ แต่ Davis ก็พิสูจน์ว่าเขาคือ “ซูเปอร์สตาร์ตัวจริง”
ความท้าทาย: ทีมไม่พร้อม แต่ Davis แบกทุกอย่าง
ตลอดหลายปี Davis ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า Pelicans ไม่สามารถสร้างทีมที่แข็งแกร่งรอบตัวเขาได้ แม้เขาจะเป็นผู้เล่นระดับ Top 5 ของลีก แต่การขาดคู่หูที่สมบูรณ์แบบและความต่อเนื่องจากทีมบริหารทำให้ Pelicans ไม่สามารถทะลุไปถึงรอบลึกในเพลย์ออฟ
ตัวอย่างเช่น การร่วมงานกับ DeMarcus Cousins ที่เคยสร้างความหวังว่าทีมจะกลายเป็นคู่หู “Twin Towers” ที่น่ากลัวที่สุดในลีก แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บและสัญญาที่ไม่ต่อเนื่องทำให้ความฝันนั้นพังลง
แฟน ๆ มองว่าช่วงเวลานี้คือ “การเสียของ” เพราะ Anthony Davis มีฝีมือเกินกว่าจะตกรอบแรก แต่ Pelicans กลับไม่สามารถเสริมทัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพลย์ออฟที่น่าจดจำ: การโค่น Blazers ปี 2018
แม้ Pelicans จะไม่ค่อยได้ไปเพลย์ออฟ แต่ฤดูกาล 2017–18 คือช่วงเวลาที่ Anthony Davis แสดงศักยภาพเต็มพิกัด เขาพาทีมคว้าชัยเหนือ Portland Trail Blazers ด้วยการ กวาด 4-0 ในรอบแรก Davis ทำผลงานสุดโหดด้วยค่าเฉลี่ยกว่า 33 แต้ม 11.8 รีบาวด์ ต่อเกม
แม้จะพ่าย Golden State Warriors ในรอบถัดมา แต่ซีรีส์นี้พิสูจน์ว่า Davis ไม่เพียงเป็นผู้เล่นที่มีสถิติส่วนตัวสูง แต่ยังสามารถแบกทีมufabet เว็บแม่ บริการตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ให้ชนะในระดับเพลย์ออฟได้จริง
ความสัมพันธ์ที่แตกร้าว: การขอย้ายทีมและดราม่า
จุดเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อ Davis ประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการต่อสัญญาและต้องการย้ายออกจากทีม ข่าวนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการ NBA และทำให้แฟน Pelicans รู้สึก “ถูกหักหลัง”
การเจรจาย้ายทีมในตอนแรกเต็มไปด้วยความดราม่า โดยเฉพาะข่าวลือกับ Los Angeles Lakers ที่มี LeBron James รออยู่ สุดท้ายในช่วงซัมเมอร์ 2019 ดีลก็เกิดขึ้นจริง Davis ถูกเทรดไป Lakers แลกกับแพ็กเกจใหญ่ที่มี Lonzo Ball, Brandon Ingram, Josh Hart และสิทธิ์ดราฟต์หลายตัว
การจากไปของ Davis ทำให้แฟนบาส New Orleans เจ็บปวด แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็เปิดประตูสู่การรีบิลด์ครั้งใหม่ที่ทีมได้ Ingram และภายหลังได้ Zion Williamson เข้ามาเป็นแกนหลัก
มรดกที่ Anthony Davis ทิ้งไว้กับ Pelicans
แม้เส้นทางของ Davis กับ Pelicans จะไม่ได้ลงเอยด้วยถ้วยแชมป์ แต่เขาทิ้งร่องรอยสำคัญไว้ให้กับแฟรนไชส์:
- เขาคือ ซูเปอร์สตาร์คนแรก ของทีมในฐานะ New Orleans Pelicans หลังการรีแบรนด์
- เขาพิสูจน์ว่าแฟรนไชส์สามารถดึงดูดแฟนทั่วประเทศได้ด้วยการมีผู้เล่นระดับ MVP
- เขาคือเหตุผลที่ Pelicans ได้ทรัพย์สินมากมายในการรีบิลด์หลังการเทรด
Davis เองก็สมหวังในเส้นทางอาชีพ เพราะเขาคว้าแชมป์ NBA ร่วมกับ Lakers ในปี 2020 ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้กับ Pelicans
การเปรียบเทียบยุค Davis กับยุค Zion
หลังจาก Davis ย้ายออกมา Pelicans ได้ดราฟต์ Zion Williamson เข้ามาแทนที่ หลายคนมองว่า Zion คือ “Anthony Davis เวอร์ชันใหม่” ที่จะกลายเป็นหน้าใหม่ของแฟรนไชส์
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ บทเรียนจาก Davis ทำให้ทีมบริหาร Pelicans พยายามสร้างทีมที่สมดุลมากขึ้นรอบ Zion และ Ingram เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดพลาดแบบเดิม การเสริมผู้เล่นเช่น CJ McCollum และ Jonas Valančiūnas เป็นการส่งสัญญาณว่า Pelicans ไม่ต้องการพึ่งพาดาวคนเดียวเหมือนในอดีต
บทเรียนจาก Anthony Davis Era
- การมีซูเปอร์สตาร์ไม่เพียงพอ หากไม่มีทีมที่แข็งแรงรอบตัว
- การบริหารจัดการทีมสำคัญพอ ๆ กับความสามารถของผู้เล่น
- แฟรนไชส์ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงกว่าเดิม
Davis Era อาจจบลงด้วยความผิดหวังสำหรับแฟน Pelicans แต่ก็เป็นบทเรียนที่ผลักดันทีมไปสู่ทิศทางใหม่ที่อาจมั่นคงยิ่งกว่าในระยะยาว
บทสรุป
Anthony Davis Era คือบทหนึ่งที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ New Orleans Pelicans มันคือช่วงเวลาที่แฟน ๆ ได้เห็นการแจ้งเกิดของซูเปอร์สตาร์ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ แต่ก็เป็นยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความหวัง และความผิดหวัง
ทุกวันนี้ Pelicans ยังคงใช้บทเรียนจากยุค Davis มาเป็นพื้นฐานในการสร้างทีมใหม่ และแฟน ๆ ก็ยังคงเชื่อว่าซักวันหนึ่งทีมนี้จะสามารถก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้
และเช่นเดียวกับการเดินทางของ Pelicans ที่เต็มไปด้วยทั้งชัยชนะและความล้มเหลว แฟน ๆ ที่ต้องการความตื่นเต้นและมีส่วนร่วมกับทุกแมตช์ก็สามารถสนุกได้ผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถืออย่างสมัคร ufabet เว็บตรง เล่นง่าย ปลอดภัยที่จะทำให้การติดตามเกมบาสเกตบอลมีสีสันมากยิ่งขึ้น